
ถ้าหาก Batman v Superman: Dawn of Justice เป็นเรื่องโศกเศร้าที่บริสุทธิ์ Joker เกิดเรื่องขบขัน โจ๊กเกอร์ได้บ่งบอกถึงกฎข้อแรกของความขบขันแล้ว – ยิงใส่ผู้ที่ไม่รู้เรื่อง ความตลกเป็นศิลป์เชิงอัตนัย ฟีนิกซ์และก็ดิค้างปริโอเล่นโจ๊กเกอร์สองเวอร์ชั่นที่ต่างกันมากมาย แต่ว่าภาพยนตร์ทั้งคู่เรื่องก็น่าสรรเสริญ – ทั้งสองเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมอง สำหรับเพื่อการเล่นละครในต.ค.ได้รับคำชื่นชมเยอะแยะแล้ว แล้วก็นักวิพากษ์วิจารณ์ก็ส่อให้เห็นอย่างเร็วว่ามันทำลายโมเดลวีรบุรุษกับคนร้ายแบบเริ่มแรกได้มากน้อยเท่าใด ภาพยนตร์หัวข้อนี้ทำลายกระบวนทัศน์ของวีรบุรุษ/คนร้าย แทนที่ด้วยกระบวนทัศน์ที่สลับซับซ้อนและไม่สุขใจ ภาพยนตร์หัวข้อนี้แสดงรวมทั้งถ่ายทำเจริญมากมายจนกระทั่งดาราแสดงเป็นโจ๊กเกอร์ด้วยอารมณ์ที่จริงจริง นักวิพากษ์วิจารณ์ได้ติชมภาพยนตร์ประเด็นนี้อย่างเร็วเกี่ยวกับการแสดงภาพความร้ายแรงและก็ความเจ็บไข้ทางด้านจิต แม้ว่าจะมีบางฉากที่ Arthur Fleck ฆ่าชายสามคนอย่างไร้ความปราณีบนรถไฟใต้ดิน แม้กระนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฉากนี้จำเป็นจะต้องในการพัฒนาผู้แสดงของเขา ถึงแม้หนังจะไม่เพียรพยายามแก้ไขปัญหาทางจิตของนักแสดง แต่ว่าก็ยังแสดงภาพผู้ร้ายโรคทางจิตที่ไม่น่าจะโดนจับโดยขาดเหตุผล ในระหว่างที่ภาพยนตร์เน้นย้ำไปที่ร่างมืด แม้กระนั้นก็มีส่วนประกอบของความตลกอยู่สองสามอย่าง เฟล็ก ศิลปินตลกที่มีปัญหาทางจิตใจ ถูกไล่ออกจากงานอันเป็นผลมาจากการยิงที่เบิกบาน ซึ่งจบสิ้นลงด้วยการตายของอันธพาลวอลล์สตรีทสามผู้ที่ล่วงละเมิดสตรีคนหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน สิ่งนี้ก่อกำเนิดการผลิตอนัตตาของเขา ซึ่งแปลงเป็นเครื่องหมายของเมืองก็อตแธมที่ถูกล้มเลิกสิทธิ์ สมัยก่อนที่ข่มเหงรังแกของเขาบังคับให้เขาเสนอคำถามว่าชีวิตของเขาเป็นเรื่องเศร้าหรือเรื่องขำขัน โจ๊กเกอร์ดึงความคล้ายมาสู่สมัยของพวกเราในฐานะดาราตลกปัญหาภายในสังคมซ้ำรอย ประวัติศาสตร์เป็นวัฏจักรคงเดิม แล้วก็แม้ว่าการทำของโจ๊กเกอร์จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ว่าพวกเราก็ยังจบท้ายได้บางส่วน แต่ว่าโจ๊กเกอร์เปิดโอกาสสำหรับเพื่อการตรึกตรองใจความสำคัญด้านสังคมในระดับที่ลึกซึ้งเพิ่มขึ้น โดยเหตุนี้พวกเราก็เลยสามารถเพลินกับภาพยนตร์หัวข้อนี้ แต่ว่าก็มิได้ไม่มีปัญหาด้วยกัน ภาพยนตร์หัวข้อนี้ถูกวิจารณ์ว่านำเสนอคำถามที่ยังมิได้คำตอบมากจนเกินความจำเป็น ภาพยนตร์ประเด็นนี้มีการอ้างอิงที่ลื่นไหลล้นหลาม การกลับมาของเฟล็คเมื่อโจ๊กเกอร์เปิดเผยให้มองเห็นอดีตกาลที่ตกอับของเขารวมทั้งบริบทด้านสังคมที่เขาปฏิบัติงาน สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนเป็นเครื่องหมายของความร้ายแรงทางด้านการเมือง และก็โทษสังคมสำหรับเพื่อการตายของเขา และก็เขาก็ทำ – กระจายเสียง – โดยการดำเนินงานของเมอร์เรย์แฟรงคลิน โน่นเป็นตัวอย่างของภาพยนตร์ยุคใหม่ที่สะท้อนเรื่องเดี๋ยวนี้ได้เช่นไร ในขณะผู้แสดงโจ๊กเกอร์เป็นตัวละครเสียดสี แม้กระนั้นเขาก็เป็นตัวละครที่เห็นใจด้วย ความเข้าใจที่เขามีต่อคนฝืดเคืองเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการสะท้อนทางอารมณ์ของภาพยนตร์ประเด็นนี้ โจ๊กเกอร์เป็นต้นแบบของตัวตลกแล้วก็เขาเก็บรวบรวมสิ่งนี้ แต่ว่าไม่เสมือนวีรบุรุษในหนังสือการ์ตูนโดยมาก คำกล่าวเสียดสีของโจ๊กเกอร์เป็นแนวทางไกลจากภาพยนตร์ซูเปอร์วีรบุรุษทั่วๆไปที่ Fleck ฆ่าแม่ของเขา เพนนี และก็บิดาของเขา ด้วยเหตุนั้นก็เลยเป็นไปตามแนวคิดการฆ่าฟัน การเสียชีวิตของแม่ของเฟล็กทำให้จังหวะสำหรับในการประจันหน้ากับเฟล็กจบลงด้วยเหมือนกัน เฟล็กเป็นลูกของจักรวาลกางทแมนที่มีอยู่ก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นก็เลยมอบสถานะลูกกำพร้าชนิดเดียวกับคู่แข่งขันสำคัญของเขาในอนาคต แล้วความไม่ถูกกันหลักของเรื่องล่ะ?
เ
ถ้าหาก Batman v Superman: Dawn of Justice เป็นเรื่องโศกเศร้าที่บริสุทธิ์ Joker เกิดเรื่องตลกโปกฮา โจ๊กเกอร์ได้แสดงถึงกฎข้อแรกของความขำขันแล้ว – ยิงใส่ผู้ที่ไม่รู้เรื่อง ความตลกขบขันเป็นศิลป์เชิงอัตนัย ฟีนิกซ์และก็ดิค้างปริโอเล่นโจ๊กเกอร์สองเวอร์ชั่นที่แตกต่างมากมาย แต่ว่าภาพยนตร์ทั้งคู่เรื่องก็น่ากล่าวชม – ทั้งสองเป็นสิ่งที่จะต้องมอง สำหรับในการเล่นละครในต.ค.ได้รับคำกล่าวชมมากแล้ว รวมทั้งนักวิพากษ์วิจารณ์ก็ทำให้ทราบอย่างเร็วว่ามันทำลายโมเดลวีรบุรุษกับคนร้ายแบบเริ่มแรกได้มากน้อยแค่ไหน ภาพยนตร์ประเด็นนี้ทำลายกระบวนทัศน์ของวีรบุรุษ/คนร้าย แทนที่ด้วยกระบวนทัศน์ที่สลับซับซ้อนและไม่บันเทิงใจ ภาพยนตร์หัวข้อนี้แสดงแล้วก็ถ่ายทำก้าวหน้ามากมายกระทั่งดาราหนังแสดงเป็นโจ๊กเกอร์ด้วยอารมณ์ที่จริงจริง นักวิพากษ์วิจารณ์ได้วิจารณ์ภาพยนตร์หัวข้อนี้อย่างเร็วเกี่ยวกับการแสดงภาพความร้ายแรงและก็ความป่วยไข้ทางจิตใจ แม้ว่าจะมีบางฉากที่ Arthur Fleck ฆ่าชายสามคนอย่างไร้ความปราณีบนรถไฟใต้ดิน แม้กระนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฉากนี้จำเป็นจะต้องในการพัฒนาผู้แสดงของเขา หากว่าหนังจะไม่อุตสาหะแก้ไขปัญหาด้านจิตใจของนักแสดง แต่ว่าก็ยังแสดงภาพผู้ร้ายโรคทางจิตที่ไม่น่าจะโดนจับโดยไร้เหตุผล ขณะที่ภาพยนตร์เน้นย้ำไปที่ร่างมืด แม้กระนั้นก็มีส่วนประกอบของความขบขันอยู่สองสามอย่าง เฟล็ก ดาราตลกที่มีปัญหาด้านจิต ถูกไล่ออกจากงานอันเป็นผลมาจากการยิงที่เบิกบาน ซึ่งสิ้นสุดลงด้วยการตายของอันธพาลวอลล์สตรีทสามผู้ที่ล่วงละเมิดสตรีคนหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน สิ่งนี้นำไปสู่การผลิตอนัตตาของเขา ซึ่งแปลงเป็นเครื่องหมายของเมืองก็อตแธมที่ถูกล้มเลิกสิทธิ์ อดีตกาลที่รังแกของเขาบังคับให้เขาตั้งปัญหาว่าชีวิตของเขาเป็นเรื่องเศร้าหรือเรื่องขบขัน โจ๊กเกอร์ดึงความเหมือนมาสู่สมัยของพวกเราในฐานะศิลปินตลกปัญหาภายในสังคมซ้ำรอย ประวัติศาสตร์เป็นวัฏจักรคงเดิม แล้วก็ถึงแม้ว่าการทำของโจ๊กเกอร์จะไม่เปลี่ยนแปลง แม้กระนั้นพวกเราก็ยังจบท้ายได้น้อย แต่ว่าโจ๊กเกอร์มอบโอกาสสำหรับในการพินิจพิเคราะห์ใจความสำคัญทางด้านสังคมในระดับที่ลึกซึ้งเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเราก็เลยสามารถเพลิดเพลินเจริญใจกับภาพยนตร์ประเด็นนี้ แม้กระนั้นก็มิได้ไม่มีปัญหาด้วยกัน ภาพยนตร์หัวข้อนี้ถูกวิจารณ์ว่านำเสนอคำถามที่ยังมิได้คำตอบมากจนเกินความจำเป็น ภาพยนตร์ประเด็นนี้มีการอ้างอิงที่ลื่นไหลมากไม่น้อยเลยทีเดียว การกลับมาของเฟล็คเมื่อโจ๊กเกอร์เปิดเผยให้มองเห็นอดีตกาลที่ล่มจมของเขาแล้วก็บริบททางด้านสังคมที่เขาปฏิบัติงาน ท้ายที่สุดเขาก็แปลงเป็นเครื่องหมายของความร้ายแรงทางด้านการเมือง รวมทั้งโทษสังคมในการตายของเขา และก็เขาก็ทำ – กระจายเสียง – โดยการดำเนินงานของเมอร์เรย์แฟรงคลิน โน่นเป็นตัวอย่างของภาพยนตร์ยุคใหม่ที่สะท้อนเหตุเดี๋ยวนี้ได้เช่นไร ในระหว่างที่ผู้แสดงโจ๊กเกอร์เป็นตัวละครเสียดสี แม้กระนั้นเขาก็เป็นตัวละครที่เห็นใจด้วย ความเห็นใจที่เขามีต่อคนอัตคัดเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการสะท้อนทางอารมณ์ของภาพยนตร์หัวข้อนี้ โจ๊กเกอร์เป็นต้นแบบของตัวตลกแล้วก็เขาสะสมสิ่งนี้ แต่ว่าไม่เสมือนวีรบุรุษในหนังสือการ์ตูนจำนวนมาก คำกล่าวเสียดสีของโจ๊กเกอร์เป็นวิถีทางไกลจากภาพยนตร์ซูเปอร์วีรบุรุษทั่วๆไปที่ Fleck ฆ่าแม่ของเขา เพนนี รวมทั้งบิดาของเขา เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นไปตามแนวคิดการฆ่าฟัน การเสียชีวิตของแม่ของเฟล็กทำให้ช่องทางสำหรับเพื่อการประจันหน้ากับเฟล็กจบลงเหมือนกัน เฟล็กเป็นลูกของจักรวาลกางทแมนที่มีอยู่ก่อนแล้ว ด้วยเหตุนั้นก็เลยมอบสถานะลูกกำพร้าลักษณะเดียวกับคู่แข่งขันสำคัญของเขาในอนาคต แล้วการขัดกันหลักของเรื่องล่ะ?
แหล่งที่มาจากTMDB