
กลุ่มนักสู้ต่อต้านอันธพาลรวมตัวกันเพื่อทำภารกิจเพื่อขโมยแผนของ Death Star และนำความหวังใหม่มาสู่กาแลคซี
มีบางสิ่งที่น่าดึงดูดเกี่ยวกับธีมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ลูกเรือโกสต์แทรกซึมเข้าไปในโรงงานของจักรวรรดิรวมทั้งลักขโมยแผนสำหรับนักสู้ TIE ขณะที่ลูกเรือโร้กวันลักขโมยกลยุทธ์สำหรับเดธสตาร์ เวลาที่ภารกิจของ Ghost เกี่ยวพันกับยานขนาดเล็ก วัตถุประสงค์ของ Rogue One นั้นยิ่งใหญ่กว่ามากมาย และก็จุดหมายของมันก็สามารถแปลงดาวพระเคราะห์ให้แปลงเป็นฝุ่นละอองได้ ในช่วงเวลาที่ภารกิจทั้งคู่มีจุดเด่นของตน พวกเขาก็มีธีมที่คล้ายกันของความไม่สงบที่มากขึ้นกับการยึดครอบครองของจักรวรรดิ และก็ชั้นเชิงการล้มล้างของจักรวรรดิและก็ประดิษฐกรรมที่อันตรายถึงแก่ชีวิต Rogue One ติดตามกระแสของ The Force Awakens แล้วก็ทำให้ทหารลมพายุมีคุณภาพความเป็นคนเพิ่มมากขึ้น เวลาที่ทหารลมพายุที่ไม่มีหน้าแล้วก็เลอะเทอะ เตือนพวกเราว่าจักรวรรดิไม่ดี พวกเขามิได้ไม่มีหน้า แม้กระนั้นพวกเขาทุ่มเทให้กับวิธีการทำสิ่งที่ถูกสำหรับกาแลคซี นอกเหนือจากรายละเอียดที่เป็นเอกภาพแล้ว ภาพยนตร์หัวข้อนี้ยังชี้ให้เห็นว่ากรุ๊ปกบฏเพียรพยายามดิ้นรนเพื่อรวมเป็นเลิศโดยไม่มีพลังของพัลพาทีนได้ยังไง ตอนที่ Rogue One พากเพียรปรับนิสัยให้กับจักรวาล “ของแท้” ของ Star Wars แม้กระนั้นก็อุตสาหะขยายขอบเขตของจำพวกเกมด้วย นอกเหนือจากการประสมประสานส่วนประกอบจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆในจักรวาล Star Wars แล้ว Rogue One ยังรวมทั้งการเอ๋ยถึงภาพยนตร์ที่เก่ากว่าหลายเรื่องซึ่งชี้ให้เห็นว่าซีรีส์นี้เป็น “ของแท้” เช่นเดียวกับภาพยนตร์เจไดทุกเรื่อง ความเหมือนจริงของภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ทำให้มันอยู่ในข้อจำกัดของตรีภาคเริ่มแรก
การขัดกันของ Rogue One A Star Wars Story กับสามภาคเริ่มแรก – การต่อสู้ระหว่างความอิสระรวมทั้งการปกครองแบบเผด็จการ – เป็นธีมศูนย์รวมยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งสองฝ่ายจะทำตกลงใจที่น่าสงสัย หากว่าบางคราวผู้ร้ายจะเพียงแค่ปฏิบัติภารกิจของตน แม้กระนั้นคนดีก็จะถูกกำจัดออกไป ไม่ว่าพวกเขาจะเก่งขนาดไหนก็ตาม ผู้แสดงของเทพนิยายไม่มีข้อเสีย รวมทั้งแม้กระทั้งพล็อตเรื่องก็ชอบขาดตกบกพร่อง หัวข้อด้านการเมืองที่เป็นฐานรากของภาพยนตร์หัวข้อนี้มักสะท้อนให้มองเห็นในการขัดกันระหว่างดาวพระเคราะห์ มันยุ่งแล้วก็นานัปการกว่า Return of the Jedi แม้กระนั้นมันเป็นความฉิบหายรวมทั้งความลำบากตรากตรำที่เป็นแก่นของเรื่อง ฉากปิดของ Rogue One ทำให้จินรวมทั้งแคสเซียนร่วมสวมกอดที่ขยับเขยื้อนอย่างถ่องแท้ในอิริยาบถที่แทบจะเสมือน Watchmen ถึงแม้ว่า Rogue One จะไม่ใช่ภาพยนตร์การบ้านการเมือง แต่ว่าก็ตรวจสอบใจความสำคัญเรื่องความยุติธรรมทางด้านที่เกี่ยวกับสังคม ความอิสระ และก็การแสดงออกถึงตัวตน
อ้างอิงตาม Wiki
ความขัดแย้งของ Rogue One A Star Wars Story กับไตรภาคดั้งเดิม – การต่อสู้ระหว่างเสรีภาพและการปกครองแบบเผด็จการ – เป็นธีมที่รวมเป็นหนึ่งของภาพยนตร์ ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งสองฝ่ายจะทำการตัดสินใจที่น่าสงสัย แม้ว่าบางครั้งคนร้ายจะแค่ทำหน้าที่ของตัวเอง แต่คนดีก็จะถูกกำจัดออกไป ไม่ว่าพวกเขาจะเก่งแค่ไหนก็ตาม ตัวละครของเทพนิยายไม่มีข้อบกพร่อง และแม้แต่โครงเรื่องก็มักจะมีข้อบกพร่อง ประเด็นทางการเมืองที่เป็นรากฐานของภาพยนตร์เรื่องนี้มักสะท้อนให้เห็นในความขัดแย้งระหว่างดาวเคราะห์ มันยุ่งและหลากหลายกว่า Return of the Jedi แต่มันคือความหายนะและความยากลำบากที่เป็นแก่นของเรื่อง ฉากปิดของ Rogue One ทำให้จินและแคสเซียนร่วมโอบกอดที่เคลื่อนไหวอย่างลึกซึ้งในท่าทางที่เกือบจะเหมือน Watchmen แม้ว่า Rogue One จะไม่ใช่ภาพยนตร์การเมือง แต่ก็สำรวจประเด็นเรื่องความยุติธรรมทางสังคม เสรีภาพ และการแสดงออกถึงตัวตน