
เรื่องราวว่าด้วยการได้รับข้อความเข้ารหัสปริศนาจากเมื่อในอดีต ชักนำให้บอนด์ต้องออกตามล่าหาความจริง จนเข้าไปพัวพันกับสเปกเตอร์ (สเปกเตอร์) องค์กรลับที่เชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก ขณะที่ M ก็ต้องต่อสู้กับอำนาจและปัญหาทางการเมือง เพื่อให้ MI6 องค์กรสายลับของบอนด์อยู่รอดต่อไป
Spectre เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 25 องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย (2015)
เจมส์ บอนด์ ข้าราชการ MI6 ดำเนินภารกิจโดยมิได้รับอนุญาตในประเทศเม็กซิโกสิตี้ในวันที่ความตาย ซึ่งเขาหยุดแนวทางวางระเบิดของผู้ก่อเหตุร้ายแรง บอร์นฆ่า Marco Sciarra หัวหน้าผู้ก่อเหตุร้ายรวมทั้งยึดแหวนของเขาซึ่งประดับโดยการใช้ปลาหมึกยักษ์ ก่อนจะลักขโมยเฮลิคอปเตอร์เพื่อแอบหนี ผู้ซึ่งมีส่วนร่วมสำหรับเพื่อการแย่งอำนาจกับ Max Denbigh (ผู้ซึ่ง Bond dubs “C”) อธิบดีของ Joint Intelligence Service ที่ใหม่ที่ได้รับการช่วยส่งเสริมจากเอกชนซึ่งจัดตั้งขึ้นจากการควบรวมกิจการค้าของ MI5 แล้วก็ MI6 แคมเปญซีสำหรับสหราชอาณาจักรเพื่อร่วมโครงงานเฝ้าระวังและก็ข่าวกรองระดับนานาชาติ “Nine Eyes” และก็ใช้อำนาจของเขาเพื่อปิดส่วนตัวแทนภาคสนาม ’00’ ซึ่งเขามั่นใจว่าเชยแล้ว บอร์นละเมิดคำสั่งของเอ็มรวมทั้งเดินทางไปกรุงโรมเพื่อไปร่วมงานศพของเซียร์รา เขาช่วยแล้วก็คะยั้นคะยอ Lucia เมียม่ายของ Sciarra ซึ่งบอกเขาว่า Sciarra อยู่ในหน่วยงานของนักธุรกิจที่มีความข้องเกี่ยวทางอาญาแล้วก็ผู้ก่อให้เกิดเหตุร้าย บอร์นใช้แหวนของเซียร์ราเพื่อแทรกซึมการสัมมนาเพื่อเลือกผู้แทนของสเซียร์รา ซึ่งเขาระบุตัวฟรานซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์หัวหน้า ภายหลังจากได้ยินโอเบอร์เฮาเซอร์สั่งให้ลอบฆ่า “ราชาที่ซีดเซียว” บอร์นก็ถูกไล่ล่าไปทั้งเมืองโดยมือสังหารของหน่วยงาน มิสเตอร์ไวท์ อดีตกาลสมาชิกของควอนตัมสาขาย่อยของหน่วยงาน บอร์นขอให้คุณสอบปากคำโอเบอร์เฮาเซอร์ ซึ่งคาดการณ์ว่าเสียชีวิตเมื่อ 20 ปีกลาย.. บอร์นเจอไวท์ในอัลเทาส์ซี ประเทศออสเตรีย ที่ซึ่งเขาใกล้จะตายจากพิษแทลเลียม เขาบอกให้บอร์นตามหาแล้วก็คุ้มครองบุตรสาวของเขา จิตแพทย์ Madeleine Swann ซึ่งจะพาเขาไปที่ลาอเมริกาเพื่อตามหาโอเบอร์เฮาเซอร์ บอร์นประจันหน้ากับสวอนน์รวมทั้งช่วยเหลือคุณจากฮินซ์แล้วก็กองกำลังของเขา ทั้งสองได้เจอกับ Q ซึ่งเชื่อมโยง Oberhauserกับภารกิจก่อนหน้าของ Bond โดยกำหนด Le Chiffre, Dominic Greene แล้วก็ Raoul Silva เป็นผู้แทนของหน่วยงานเดียวกันซึ่ง Swann กล่าวว่าเป็น สเปกเตอร์.. Swann พา Bond ไปที่ L’Américain, บังกะโลใน Tangier และก็ พวกเขาศึกษาค้นพบว่าไวท์ทิ้งหลักฐานที่แนะนำพวกเขาไปยังฐานของโอเบอร์เฮาเซอร์ที่ปล่องภูเขาไฟในทะเลทรายซาฮารา ระหว่างนั่งรถไฟไปยังสถานีที่ห่างไกล บอร์นและก็สวอนน์เจอกับฮินซ์ ซึ่งถูกขับออกมาจากรถไฟสำหรับในการต่อสู้ที่ตามมา และก็ถัดมาพวกเขาก็ถูกพาไปที่ฐานของโอเบอร์เฮาเซอร์ Oberhauser เผยออกมาว่า สเปกเตอร์ ได้มอบทุนส่งเสริม Joint Intelligence Service ในช่วงเวลาที่แสดงการจู่โจมของผู้ก่อเหตุร้ายแรงทั่วทั้งโลก ส่งผลให้เกิดความจำเป็นโปรแกรม Nine Eyes ในทางตรงกันข้าม C จะให้ Spectre เข้าถึงข้อมูลข่าวกรองที่สะสมโดย Nine Eyes ได้ไม่จำกัด ทำให้พวกเขาสามารถคาดเดาแล้วก็โต้กลับการพิสูจน์สำหรับการปฏิบัติการของพวกเขาได้ บอร์นถูกทารุณเมื่อโอเบอร์เฮาเซอร์เอ่ยถึงประวัติศาสตร์ที่พวกเขาแบ่งปัน โอเบอร์เฮาเซอร์ริษยาความรักที่บิดามีต่อบอร์น โอเบอร์เฮาเซอร์ก็เลยฆ่าบิดาของเขา ทำฉากการเสียชีวิตของตน รับเอาชื่อเอิร์นส์ สตาฟโร โบลเฟลด์ ไปตั้งเป็น สเปกเตอร์แล้วก็มุ่งเป้าไปที่บอนด์ รวมทั้งในที่สุดจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อเรื่องเศร้าบ่อยในชีวิตของบอร์น ซึ่งรวมทั้งการตายของเวสเปอร์ ลินด์และก็เอ็ม บอนด์รวมทั้งสวอนน์คนก่อนทำให้โบลเฟลด์ตกตะลึงด้วยการตั้งเวลาข้อมือระเบิดใส่หน้า ทำให้เขาเสียโฉม แล้วก็หลบซ่อนไปลอนดอนเพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ Nine Eyes ออนไลน์.. Swann รวมทั้ง Bond ถูกลักพาตัวไปโดยกรุ๊ปดำเนินการ สเปกเตอร์ ในขณะ ที่เหลือของกรุ๊ปปฏิบัติการตามแผน ภายหลังที่ Q ประสบผลสำเร็จสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันไม่ให้ Nine Eyes ออนไลน์ การต่อสู้ระหว่าง M และก็ C ก็ลงเอยด้วยการที่ C ตกลงสู่ความตาย โบลเฟลด์ ยังมีชีวิตอยู่แล้วก็มีรอยแผลเป็นรอบๆทางขวาของบริเวณใบหน้า บอกบอร์นว่าเขาจำเป็นต้องแอบหนีก่อนที่จะระเบิดจะตรงประเด็นชนวนด้านในสามนาที หรือไม่ก็ตายเพื่อช่วยสวอนน์ โบลเฟลด์อุตสาหะคลานออกมาจากซากรวมทั้งท้าทายให้บอร์นฆ่าเขา แม้กระนั้นบอร์นไม่ยินยอมปลดปล่อยให้เขาโดนจับโดยเอ็ม หลังจากนั้นเขาก็กลับมารวมกลุ่มกับสวอนน์อีกรอบแล้วก็ทั้งคู่ก็จากไป
อ้างอิงจาก TMDB